Header

ไข้หูดับ ภัยมรณะจากหมูดิบ อันตรายถึงชีวิตและหูหนวกถาวรที่

05 มิถุนายน 2568

ไข้หูดับ ภัยมรณะจากหมูดิบ อันตรายถึงชีวิตและหูหนวกถาวรที่

     ไข้หูดับ หรือที่ทางการแพทย์เรียกว่า โรคติดเชื้อสเตรปโตคอคคัส ซูอิส (Streptococcus suis) เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คนที่ยังคงเป็นปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ที่นิยมบริโภคหมูดิบหรือหมูที่ปรุงไม่สุก โรคนี้สามารถทำให้ผู้ป่วย หูหนวกถาวร หรือแม้กระทั่ง เสียชีวิต ได้อย่างรวดเร็ว การรู้จัก อาการไข้หูดับ ที่ควรรีบพบแพทย์ รวมถึง วิธีป้องกันไข้หูดับ จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราทุกคนควรทำความเข้าใจ เพื่อปกป้องตนเองและคนที่คุณรักจากความเสี่ยงที่มองไม่เห็นนี้
 

ต้นตอของโรค ทำความรู้จัก "เชื้อ Streptococcus suis"

     โรคไข้หูดับ เกิดจากแบคทีเรียชื่อ Streptococcus suis (S. suis) ซึ่งเป็นเชื้อประจำถิ่นที่พบได้บ่อยในทางเดินหายใจของสุกร โดยเฉพาะหมูที่เลี้ยงในสภาพแวดล้อมที่ไม่ถูกสุขอนามัย หรือหมูที่ไม่ได้มาตรฐานฟาร์ม แม้หมูส่วนใหญ่อาจไม่แสดงอาการป่วย แต่สามารถเป็นพาหะของเชื้อได้
 

ช่องทางหลักที่เชื้อแพร่มาสู่คน

     เชื้อ Streptococcus suis สามารถเข้าสู่ร่างกายคนได้ 2 ช่องทางหลัก

  • การบริโภคอาหารที่ปนเปื้อนเชื้อ คือช่องทางที่พบบ่อยที่สุด การกิน หมูดิบ หรือ หมูที่ปรุงไม่สุก อย่างเช่น ลาบดิบ ก้อยสด แหนมดิบ ไส้อั่วดิบ หรือแม้แต่เลือดหมูดิบ ถือเป็นความเสี่ยงสูง เพราะเชื้อจะยังคงมีชีวิตอยู่ในเนื้อ เลือด หรือเครื่องในหมู
  • การสัมผัสเชื้อโดยตรงผ่านบาดแผล สำหรับผู้ที่ทำงานใกล้ชิดกับหมู เช่น เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู คนงานในโรงฆ่าสัตว์ หรือผู้ชำแหละเนื้อหมู หากมีบาดแผล รอยถลอก หรือแม้แต่รอยขีดข่วนเล็กน้อย แล้วสัมผัสกับหมูที่ติดเชื้อ ซากหมู เลือดหมู หรือสิ่งคัดหลั่งของหมูโดยไม่ป้องกัน เชื้อก็สามารถเข้าสู่กระแสเลือดได้ทันที
     

ใครบ้างคือกลุ่มเสี่ยง "โรคไข้หูดับ"? เช็กพฤติกรรมคุณเข้าข่ายหรือไม่

โรคไข้หูดับ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่คนบางกลุ่ม แต่ใครก็ตามที่มีพฤติกรรมหรือปัจจัยเสี่ยงดังต่อไปนี้ ควรระวังและใส่ใจเรื่องการป้องกันเป็นพิเศษ

  • ผู้ที่ชอบกินหมูดิบหรืออาหารแปรรูปจากหมูที่ไม่สุก ไม่ว่าจะเป็นเมนูยอดนิยมอย่างลาบดิบ ก้อยสด แหนม หรือหมูยอที่ไม่ผ่านการทำให้สุกอย่างถูกวิธี การบริโภคอาหารเหล่านี้คือความเสี่ยงอันดับหนึ่ง
  • ผู้ที่มีอาชีพเกี่ยวข้องกับหมู เกษตรกรผู้เลี้ยงหมู คนงานโรงฆ่าสัตว์ หรือพ่อค้าแม่ค้าเนื้อหมูสด ที่ต้องสัมผัสกับหมูหรือเนื้อหมูโดยตรงเป็นประจำทุกวัน หากไม่สวมถุงมือป้องกันและมีบาดแผลที่มือ ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อ
  • ผู้ที่มีบาดแผลเปิดแล้วสัมผัสกับหมูดิบ แม้ไม่ใช่คนทำงานในฟาร์ม แต่หากมีบาดแผลเล็กน้อยและบังเอิญไปสัมผัสกับเนื้อหมูดิบที่มีเชื้อ ก็อาจติดเชื้อได้เช่นกัน
  • ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือมีโรคประจำตัว กลุ่มนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะมีอาการรุนแรงหากติดเชื้อ ได้แก่
    - ผู้สูงอายุ ระบบภูมิคุ้มกันมักจะอ่อนแอลงตามวัย
    - ผู้ป่วยโรคเบาหวาน ภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่เต็มที่
    - ผู้ป่วยโรคตับแข็ง ตับทำหน้าที่ขจัดของเสียและสร้างภูมิคุ้มกันลดลง
    - ผู้ป่วยโรคไต ระบบภูมิคุ้มกันอาจบกพร่อง
    - ผู้ป่วยที่ได้รับยากดภูมิคุ้มกัน เช่น ผู้ป่วยปลูกถ่ายอวัยวะ หรือผู้ป่วยโรคมะเร็งบางชนิด

 

สัญญาณเตือนอันตราย อาการของไข้หูดับที่คุณต้องสังเกต

     อาการของไข้หูดับ มักปรากฏภายใน 3-5 วันหลังจากได้รับเชื้อ (แต่อาจสั้นสุด 18 ชั่วโมง หรือนานสุด 14 วัน) ผู้ป่วยจะเริ่มแสดงอาการอย่างรวดเร็วและรุนแรง หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิตได้
 

อาการสำคัญที่พบบ่อยและต้องระวังเป็นพิเศษ

  1. ไข้สูงเฉียบพลัน หนาวสั่น เป็นอาการแรกเริ่มที่พบบ่อยที่สุด ไข้มักจะสูงมาก และผู้ป่วยจะรู้สึกหนาวสั่นอย่างรุนแรง
  2. ปวดศีรษะอย่างรุนแรง อาจร่วมกับอาการคลื่นไส้ อาเจียน และ คอแข็ง ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  3. หูอื้อ หรือ หูดับเฉียบพลัน นี่คืออาการจำเพาะที่ทำให้โรคนี้ได้ชื่อว่า "ไข้หูดับ" ผู้ป่วยจะรู้สึกว่าการได้ยินลดลงอย่างรวดเร็ว อาจมีหูอื้อ วิงเวียนศีรษะ หรือมีอาการบ้านหมุนร่วมด้วย หากมีไข้สูงและเริ่มมีปัญหาการได้ยิน ควรรีบไปโรงพยาบาลทันที
  4. อาการรุนแรงทางระบบประสาท หากเชื้อเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง ผู้ป่วยอาจมีอาการสับสน ซึมลง ชัก หมดสติ หรือมีอาการทางสมองอื่นๆ ซึ่งเป็นอันตรายถึงชีวิต
  5. ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis) เมื่อเชื้อแพร่กระจายไปทั่วร่างกาย ผู้ป่วยจะมีไข้สูงจัด หนาวสั่นรุนแรง ตัวเย็น ความดันโลหิตตก มีภาวะช็อก และอวัยวะภายในล้มเหลวหลายระบบ เช่น ไตวาย หัวใจวาย ปอดวาย ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของการเสียชีวิต
  6. ภาวะเลือดออกผิดปกติ ในบางรายอาจพบจุดเลือดออกตามผิวหนัง หรือมีเลือดออกง่ายผิดปกติ

     

ผลกระทบถาวร ภาวะหูดับหลังการติดเชื้อ

     ภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและมักเกิดขึ้นถาวรจาก ไข้หูดับ คือ ภาวะหูดับ โดยเฉพาะหากมีการลามของเชื้อจากเยื่อหุ้มสมองอักเสบมายังหูชั้นใน ซึ่งมีอวัยวะรับเสียงที่สำคัญอยู่ เมื่ออวัยวะเหล่านี้ถูกทำลาย การสูญเสียการได้ยินมักจะเป็น ถาวร และมักเกิดกับหูทั้งสองข้าง หากเกิดภาวะนี้ขึ้นแล้ว ผู้ป่วยจะไม่สามารถได้ยินได้อีก การผ่าตัดใส่ประสาทหูเทียมอาจเป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อฟื้นฟูการได้ยิน แต่ก็เป็นภาวะเร่งด่วนที่ต้องดำเนินการโดยเร็ว

 

การวินิจฉัยและการรักษาไข้หูดับ "ยิ่งเร็ว ยิ่งรอด"

     การวินิจฉัยและการรักษาที่รวดเร็วเป็นกุญแจสำคัญในการลดความรุนแรงของโรคและป้องกันภาวะแทรกซ้อนถาวร

การวินิจฉัยโรค

เมื่อผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยอาการน่าสงสัย แพทย์จะดำเนินการดังนี้

  1. ซักประวัติอย่างละเอียด สอบถามประวัติการบริโภคเนื้อหมู หรือการสัมผัสหมูในช่วงที่ผ่านมา รวมถึงอาการที่เกิดขึ้นและประวัติสุขภาพอื่นๆ
  2. ตรวจร่างกาย ประเมินอาการทั่วไป ตรวจระบบประสาท และตรวจการได้ยินเบื้องต้น
  3. ตรวจทางห้องปฏิบัติการเพื่อยืนยันเชื้อ
    การเพาะเชื้อจากเลือด (Blood Culture) เป็นการนำตัวอย่างเลือดไปเพาะเลี้ยงเพื่อตรวจหาเชื้อ Streptococcus suis ซึ่งเป็นการยืนยันการวินิจฉัยที่แม่นยำที่สุด
    การตรวจน้ำไขสันหลัง (Lumbar Puncture) หากสงสัยว่าเชื้อลุกลามเข้าสู่ระบบประสาทส่วนกลาง ทำให้เกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ แพทย์จะทำการเจาะน้ำไขสันหลังเพื่อส่งตรวจหาเชื้อ S. suis
    การตรวจ PCR (Polymerase Chain Reaction) เป็นการตรวจหาสารพันธุกรรมของเชื้อ S. suis ซึ่งให้ผลรวดเร็วและมีความไวสูง

แนวทางการรักษา

     การรักษา ไข้หูดับ เป็นภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์ ผู้ป่วยจำเป็นต้องได้รับการรักษาในโรงพยาบาล และมักจะได้รับยาปฏิชีวนะทันที
 

อาการสำคัญที่พบบ่อยและต้องระวังเป็นพิเศษ

  • การให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ นี่คือหัวใจสำคัญของการรักษา แพทย์จะให้ยาปฏิชีวนะที่ครอบคลุมเชื้อ Streptococcus suis เช่น เพนิซิลลิน (Penicillin) หรือ เซฟตาโซดิม (Ceftazidime) ทางหลอดเลือดดำทันทีที่สงสัยหรือได้รับการวินิจฉัย การให้ยาที่ถูกต้องและรวดเร็วจะช่วยยับยั้งการเพิ่มจำนวนของเชื้อและลดความรุนแรงของโรคได้อย่างมาก
  • เฝ้าระวังและรักษาภาวะแทรกซ้อน แพทย์จะเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น เช่น ภาวะหูหนวก ภาวะเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด หรือภาวะอวัยวะล้มเหลว
  • การรักษาประคับประคองตามอาการ เช่น การให้ยาแก้ปวดลดไข้ การให้สารน้ำทางหลอดเลือดดำเพื่อแก้ไขภาวะขาดน้ำหรือภาวะช็อก รวมถึงการประคับประคองการทำงานของอวัยวะที่สำคัญต่างๆ หากมีการล้มเหลวของอวัยวะ

 

วิธีป้องกัน "ไข้หูดับ" อย่างง่ายๆ แต่ได้ผล

     โรคไข้หูดับ เป็นโรคที่สามารถป้องกันได้ง่ายมาก ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการบริโภคและสุขอนามัยเล็กน้อย แต่จะช่วยลดความเสี่ยงได้อย่างมหาศาล
 

  1. งดหมูดิบทุกชนิด นี่คือหลักการสำคัญที่สุดที่ต้องจำให้ขึ้นใจ หลีกเลี่ยงการกินลาบดิบ ก้อยสด เลือดดิบ แหนมดิบ หรืออาหารใดๆ ที่ใช้หมูดิบหรือปรุงไม่สุกอย่างเด็ดขาด
  2. ปรุงหมูให้สุกทั่วถึง เมื่อปรุงอาหารที่ใช้เนื้อหมู เลือดหมู หรือเครื่องในหมู ต้องมั่นใจว่าสุกทั่วถึงทั้งชิ้น โดยสังเกตว่าเนื้อหมูเปลี่ยนเป็นสีขาว ไม่มีสีแดงอมชมพูเหลืออยู่ และไม่มีเลือดซึมออกมา อุณหภูมิที่ปลอดภัยคืออย่างน้อย 70 องศาเซลเซียส
  3. เลือกซื้อเนื้อหมูจากแหล่งที่เชื่อถือได้ ควรซื้อเนื้อหมูจากโรงฆ่าสัตว์ที่ได้มาตรฐาน มีใบรับรองจากกรมปศุสัตว์ หรือจากร้านค้าที่สะอาด มีสุขอนามัยที่ดี มีตู้แช่เย็นสำหรับเก็บรักษาเนื้อหมู
  4. สวมถุงมือขณะชำแหละหรือสัมผัสหมูดิบ สำหรับผู้ที่ต้องสัมผัสเนื้อหมูดิบเป็นประจำ ควรใส่ถุงมือ รองเท้าบูท และเสื้อผ้าที่ปกปิดร่างกายทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากมีบาดแผล หรือรอยถลอกบนผิวหนัง
  5. ล้างมือให้สะอาดและทำความสะอาดอุปกรณ์ทุกครั้ง หลังสัมผัสเนื้อหมูดิบ ควรล้างมือด้วยสบู่และน้ำให้สะอาดทันที รวมถึงทำความสะอาดเขียง มีด ภาชนะ และพื้นผิวต่างๆ ที่สัมผัสเนื้อหมูดิบ ด้วยน้ำยาทำความสะอาดอย่างถูกสุขลักษณะ
  6. ไม่ใช้เขียงหรือมีดร่วมกับอาหารดิบ-สุก แยกอุปกรณ์สำหรับปรุงอาหารดิบและอาหารที่ปรุงสุกแล้ว เพื่อป้องกันการปนเปื้อนข้ามของเชื้อแบคทีเรีย
     

เมื่อไหร่ที่ต้องรีบไปโรงพยาบาล?

     อย่ารอช้า! หากคุณมีอาการเหล่านี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามีประวัติการบริโภคหมูดิบ หรือสัมผัสหมูในช่วง 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็วที่สุด
 

  • มีไข้สูง หนาวสั่น อย่างรุนแรง
  • ปวดศีรษะอย่างรุนแรง และ/หรือมีอาการคอแข็ง
  • มีอาการหูอื้อ หรือการได้ยินลดลงอย่างฉับพลัน
  • มีอาการทางระบบประสาท เช่น สับสน ซึมลง หรือหมดสติ

 

 

 

 

 


 

 

มีคำถามเกี่ยวกับ โรคไข้หูดับ ?

สอบถามฟรี รับคำตอบได้ทันที ทางช่องทาง LINE เพื่อความสบายใจของคุณ
 


 


 

ช่องทางการซื้อแพ็กเกจและโปรโมชั่น

 

 




 

"โรคไข้หูดับเป็นภัยเงียบที่ร้ายแรง แต่สามารถป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการตระหนักรู้และปฏิบัติตามหลักสุขอนามัยที่ดี "งดหมูดิบทุกชนิด"
คือหัวใจสำคัญที่จะช่วยปกป้องชีวิตและคงไว้ซึ่งการได้ยินของคุณเพราะ "หูที่ดับไป อาจไม่มีวันกลับคืนมา"
สามารถปรึกษาได้ที่ รงพยาบาลพริ้นซ์ อุทัยธานี
โทร 05-604-9899  "ไม่ต้องห่วง ให้เราช่วยดูแล" 
 

 

ขอคำปรึกษา คลิก

 

 

 

อ้างอิง :



ศูนย์การรักษาที่เกี่ยวข้อง

แผนกอายุรกรรม

สถานที่

ชั้น 1

เวลาทำการ

ทุกวัน : 07.00-16.00น.

เบอร์ติดต่อ

056-049899 ต่อ 580101

แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

04 กุมภาพันธ์ 2568

ไข้หวัดใหญ่ โรคที่พบได้ทั่วไป แต่มีภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต..

ไข้หวัดใหญ่ หรือ Influenza อาจดูเป็นโรคที่พบได้บ่อยและไม่ร้ายแรงนัก แต่ความจริงแล้ว โดยไข้หวัดใหญ่สามารถมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและถึงแก่ชีวิตได้

04 กุมภาพันธ์ 2568

ไข้หวัดใหญ่ โรคที่พบได้ทั่วไป แต่มีภาวะแทรกซ้อนที่อันตรายถึงชีวิต..

ไข้หวัดใหญ่ หรือ Influenza อาจดูเป็นโรคที่พบได้บ่อยและไม่ร้ายแรงนัก แต่ความจริงแล้ว โดยไข้หวัดใหญ่สามารถมีภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงและถึงแก่ชีวิตได้

18 กุมภาพันธ์ 2568

ขับถ่ายผิดปกติ สัญญาณเตือนมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ หากตรวจพบและรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะเพิ่มโอกาสในการรักษาหายขาดได้อย่างมาก

18 กุมภาพันธ์ 2568

ขับถ่ายผิดปกติ สัญญาณเตือนมะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก

มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก เป็นหนึ่งในโรคมะเร็งที่พบบ่อยในคนไทย และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ หากตรวจพบและรักษาได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น จะเพิ่มโอกาสในการรักษาหายขาดได้อย่างมาก

24 กุมภาพันธ์ 2568

มะเร็งปอด ตรวจเจอเร็ว รักษาก่อนลุกลาม

มะเร็งปอด เป็นโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดทั่วโลก และเป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบบ่อยในประเทศไทย แม้ว่ามะเร็งปอดจะเป็นโรคร้าย แต่หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ก็มีโอกาสรักษาให้หายขาดได้

24 กุมภาพันธ์ 2568

มะเร็งปอด ตรวจเจอเร็ว รักษาก่อนลุกลาม

มะเร็งปอด เป็นโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตผู้คนมากที่สุดทั่วโลก และเป็นหนึ่งในมะเร็งที่พบบ่อยในประเทศไทย แม้ว่ามะเร็งปอดจะเป็นโรคร้าย แต่หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ก็มีโอกาสรักษาให้หายขาดได้